🟡OpenAI ChatGPT ลงทุนในคลื่นลูกใหม่ประจำปี 2023 กับ Artificial inteligence (AI) ลงทุนรูปแบบใดได้บ้าง?

🟡OpenAI ChatGPT ลงทุนในคลื่นลูกใหม่ประจำปี 2023 กับ Artificial inteligence (AI) ลงทุนรูปแบบใดได้บ้าง?

🟡OpenAI ChatGPT ลงทุนในคลื่นลูกใหม่ประจำปี 2023 กับ Artificial inteligence (AI) ลงทุนรูปแบบใดได้บ้าง?

🌠 Generative AI นับเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนโลกและการใช้ AI ของเราจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่แต่ก่อนมันยังทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน โดย Generative AI นั้นก็คืออัลกอริทึมที่จะสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาเลยแทนที่จะใช้วิธีวิเคราะห์ฐานข้อมูลเก่าแบบเดิม ๆ  เจ้า Generative AI นี้จะทำงานบนฐานข้อมูลภาษาขนาดใหญ่มหึมาที่สามารถทำให้คอมพิวเตอร์เข้าใจการพูดและเขียนของมนุษย์ได้ ส่งผลให้มันสามารถสร้าง Content ต้นฉบับแบบไม่เหมือนใครได้ ทั้งในรูปแบบข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ แล้วแต่นักพัฒนาของแต่ละแพลตฟอร์ม

🏖️Chat Generative Pre-Trained Transformer (ChatGPT) ที่เป็นผลงานการผลิตของ OpenAI เก่งจนถึงระดับที่ว่าสามารถสอบผ่านข้อสอบใบอนุญาตหมอของ U.S., ข้อสอบ Bar, และข้อสอบ MBA ของ Wharton ได้แบบไม่ต้องใช้คน  จนทำให้หลังจากเปิดตัวไปในเดือนพฤศจิกายน 2022 ChatGPT ก็ได้มีผู้ใช้งานทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแตะหลัก 100 ล้านคนเข้าไปแล้ว นับเป็นแพลตฟอร์มด้านเทคฯ เจ้าแรกที่มีอัตราการนำไปใช้งานจริงพุ่งขึ้นไวที่สุดในโลก คาดว่าหากพัฒนาไปไกลกว่านี้ เทคโนโลยี AI ก็คงเจาะตลาดโลกและกลายเป็นเป็นประวัติการณ์ของมนุษยชาติได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

🏖️ChatGPT นั้นถือเป็นโมเดล Generative AI เจ้าแรกที่ประสบความสำเร็จในการเพิ่ม Adoption ของเทคโนโลยีนี้โดยที่สามารถลดค่าใช้จ่ายของบริษัทต่าง ๆ ได้จริง จนทำให้มีแอปฯ ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตามมา เช่น Alphabet (GOOG) ที่เปิดตัว Chatbot รอบ Beta อย่าง Bard หรือ Baidu (BIDU) ที่เปิดตัวคู่แข่ง ChatGPT อย่าง “Ernie bot” อีกทั้งเรายังได้เห็น Microsoft ที่ทุ่มเงินลงทุนไปกว่า $10b กับ OpenAI เพื่อพยายามนำมาใช้กับ Product ของตัวเอง เช่น Bing search engine ที่คาดว่าจะใช้โมเดลฐานข้อมูลภาษาจาก OpenAI ที่ลึกล้ำกว่าที่เคยอยู่ใน ChatGPT 

🏖️Generative-AI มีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาอย่างมหาศาลภายในชั่วพริบตา ในปี 2022 บริษัทร่วมทุน (VC) ได้นำเงินมาลงทุนภาคนี้สูงถึง $1.37b กระจายตัวอยู่ทั่ว 78 โครงการ ซึ่งเป็นตัวเลขที่แซงหน้าเม็ดเงินลงทุนภายในเวลา 5 ปีก่อนหน้านี้ไปแล้ว โดยใช้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

🏖️อีกทั้ง Start-ups กว่าอีก 450 บริษัทก็ยังหันมาสนใจการใช้ Generative AI กับอีกหลาย ๆ วงการ เช่น E-commerce,  Drug design, Personalized videos, และ Computer vision จนทำให้มี Startup ระดับ Unicorn เกิดใหม่ขึ้นอีกหลายเจ้า

🏖️ดังนั้น การลงทุนใน generative-AI จึงเปรียบเสมือนโอกาสในการเข้าร่วมในธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงโลก อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังคงต้องพิสูจน์ตัวเองอีกหลายด้าน เช่นปัญหา Error เครือข่ายล่มที่เกิดขึ้นประจำ ปัญหาข้อมูลมีความ Bias และปัญหาข้อมูลที่ไมได้อัปเดตแบบ Real-time อย่างที่เรารู้กันดีว่า ChatGPT มีฐานข้อมูลถึงปี 2021 เท่านั้น

🏖️Generative AI กำลังใกล้ถึงจุดพีคของ Hype cycle ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าจะมีการปรับฐานความ Hype ลงมา แต่ว่าความสามารถของ Generative AI นั้นเป็นของจริง! การันตีด้วยจำนวนผู้ใช้ ChatGPT ที่ทำยอดได้เกือบครึ่งของผู้ใช้ Bing (Microsoft) ทั่วไปด้วยระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน

🏖️ถึงตอนนี้  Generative AI เริ่มแพร่หลายมากขึ้นไปยังกลุ่มตลาดที่แทบไม่มีใครคาดคิด โดยเทรนด์ที่มาแรงและจะอธิบายในบทความนี้คือ 1) AI Tokens (2) บริษัทที่ทำเกี่ยวกับ AI chip โดยตรงที่จะได้ประโยชน์จาก Machine learning และ AI ที่มีมากขึ้นในตลาด (3) บริษัทที่นำ Generative AI ไปปรับใช้กับธุรกิจเพื่อให้มีจุดเด่นเหนือคู่แข่ง อย่าง Adobe ที่นำ  Generative AI ไปใช้งานร่วมกับโปรแกรมตัดต่อวิดีโอและกราฟฟิค

AI Token

🌠1. AI Token

🏖️Trader เจ้าดังบน Twitter เริ่มหันมาสนใจเหรียญคริปโตฯ ที่ทำด้าน AI โดยตรงกันแล้ว พวกเขาเชื่อว่าเหรียญเหล่านี้จะเป็นผู้นำทำกำไรได้สูงที่สุดในตลาดกระทิงรอบต่อไป ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะเดือนที่แล้วเหรียญ AI ก็นำหน้าทำกำไรไปหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับเหรียญคริปโตฯ ทั่วไป

🏖️ปัจจุบัน AI token ถึงขั้นมีหมวดหมู่เป็นของตนเองแล้วด้วยบนแพลตฟอร์มส่องราคาเหรียญบนเว็บ CoinMarketap แถมยังทำผลงานได้ค่อนข้างดีอีกด้วย

🏖️เหรียญ AI token ที่เด่น ๆ มาเลยก็จะมี The Graph (GRT), SingularityNET (AGIX), Oasis Network (ROSE), และ Fetch.ai (FET) ส่วนที่รองลงมาก็จะเป็น Ocean Protocol (OCEAN), Exec RLC (RLC), Numeraire (NMR), Artificial Liquid Intelligence (ALI), dKargo (DKA),  Covalent (CQT), และ Phala Network (PHA)

🏖️อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสายเก็งกำไรก็เริ่มเข้ามาให้ความสนใจกันเยอะแล้ว AI token นี้ก็อาจมีแววกลายเป็นเหมือนฟองสบู่อีกลูกที่รอวันระเบิดก็ได้  Wilfred Daye อดีต CEO ของ Securitize Capital กล่าวไว้ว่า  “นักลงทุนก็เพียงแค่เกาะกระแส ChatGPT ไปเท่านั้น” และยังมองว่าเมื่อกระแสเริ่มซาลงเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็อาจถึงจุดจบของ AI token ก็เป็นได้ ต้องรอดูต่อไปในอนาคต

บริษัทพัฒนาและผลิต AI chip

🌠2.บริษัทพัฒนาและผลิต AI chip

🏖️บริษัทผลิต AI chip ที่น่าจะได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการมาของ Generative AI นั้นจะมีอยู่ 2 เจ้ายักษ์ใหญ่ คือ NVIDIA Corp และ Advanced Micro Devices (AMD) ส่วน TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Limited) ที่เป็นบริษัทผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดของโลกก็ยังจะได้ผลพลอยได้จากความต้องการ AI chips ที่มากขึ้นด้วย (TSMC เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดที่ผลิตชิ้นส่วนให้กับทั้ง NVDIA และ AMD)

🏖️NVIDIA (NVDA) เป็นบริษัทผลิตการ์ดจอ (GPU) อันดับหนึ่งของโลกที่ใช้กับแอปฯ AI ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยี Deep learning และ Generative AI อีกทั้งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา NVDIA ยังได้จับมือกับ Microsoft สร้าง Supercomputer บน Cloud เพื่อที่จะนำมาใช้ประมวลผลให้กับ AI โดยเฉพาะ

🏖️Advanced Micro Devices (AMD) เป็นบริษัทผลิตและออกแบบชิปและ Microprocessor ชั้นนำของโลก ซึ่งชิปของทาง AMD นั้นถูกนำมาใช้ในจำนวน 75% ของ Supercomputer ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด 20 อันดับแรกของโลก

บริษัทที่นำ Generative AI ไปปรับใช้กับธุรกิจ

🌠บริษัทที่นำ Generative AI ไปปรับใช้กับธุรกิจ

🏖️1) Microsoft Corporation (MSFT Stock)

Microsoft Corporation (MSFT) เป็นบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติ และถือว่ามีบทบาทมากในอุตสาหกรรม AI จากชื่อเสียงของแพลตฟอร์ม Azure ที่ให้บริการ AI ผ่าน Cloud และเครื่องมือต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับนักธุรกิจและนักพัฒนา อีกทั้ง Microsoft ยังมีโครงการที่ใช้ AI ที่กำลังพัฒนาอยู่อีกมากมายเต็มกระเป๋า

ไม่นานมานี้ Microsoft ยังได้ลงทุนเพิ่มอีก $10b ใน OpenAI เพื่อเตรียมนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เช่น Bing search engine แบบใหม่ ที่ใช้ OpenAI language model ที่เหนือชั้นกว่าที่ใช้ใน ChatGPT ธรรมดา

🏖️2) Alphabet Inc. (GOOGL Stock)

Alphabet Inc. (GOOGL) บริษัทในเครือเดียวกับ Google เป็นบริษัทที่ทำด้านเทคโนโลยี และมีจุดเด่นด้านการออกผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับบริการต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวท็อปของวงการ AI ซึ่งมีบริษัทในเครือย่อยไปอีกชื่อว่า DeepMind

เดือนที่ผ่านมา Alphabet (GOOG) ก็ได้เปิดตัว Chatbot ตัวใหม่ของตัวเองที่ชื่อว่า Bard และคาดว่าจะเปิดตัวให้บุคคลทั่วไปได้ใช้ภายในเร็ว ๆ นี้

🏖️3) Amazon.com (AMZN Stock)

Amazon.com, Inc. (AMZN) เป็นบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับด้าน E-commerce, Cloud computing, Digital streaming, และ Artificial intelligence (AI) บริษัทได้ใช้ AI มาช่วยพัฒนาแพลตฟอร์ม E-commerce ของตัวเอง ทำให้การช็อปปิ้งออนไลน์เจาะตรงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น พร้อมทั้งยังพัฒนาบริการ Cloud computing ไปในตัว ตัวอย่างบริการที่อาจเคยได้ยินชื่อกันก็จะมี Amazon Alexa แบะ Amazon Web Services

🏖️ 4) Baidu, Inc. (BIDU Stock)

Baidu เป็นบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติสัญชาติจีน มีจุดเด่นด้านอินเทอร์เน็ตเหมือนกัน ซึ่ง Baidu (BIDU) ได้เตรียมเปิดตัวคู่แข่งของ ChatGPT อย่าง “Ernie bot” ภายในเดือนมีนาคมปีนี้ และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ ERNIE ย่อมาจาก “Enhanced Representation through Knowledge Integration,” ซึ่งจะใช้ฐานข้อมูลภาษาของ Baidu เองที่เคยเริ่มพัฒนาในปี 2019

PubBit Thailand logo
Subscribe to PubBit Thailand and never miss a post.
#pubbit#chatgpt#ai#investment
  • Loading comments...