จากหนังสือเรื่อง atomic habits แสดงให้เห็นว่า ถ้าเราขยันแค่วันละ 1 % เราก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ประมาณ 37 เท่า ดังนั้น การลงทุนก็เช่นกันเมื่อเราจับสมการ map กัน
Up 1%
y = 1.01^n
Down
y = 0.99^n
n = จำนวนวัน
เมื่อเราสมมุติว่า เราทำกำไรให้ได้แค่วันละ 1% ก็จะได้ผลดังนี้
กรณีที่สร้างความเปลี่ยนแปลง 1%
y = 1.01^365(day)
= 37.78343
กรณีที่ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลง หรือ แย่ลง 1%
y = 0.99^365(day)
= 0.02552
ต่อมาเข้าเรื่องกันดีกว่า การ DCA
การ DCA นั้นทุกคนใคร ๆ ก็ทำได้ ไม่ใช่เรื่องยาก (ในความคิด) เพราะตัวโมเดลนั้นถูกออกแบบให้ simple มากที่สุด แต่สิ่งที่ยาก คือ ระหว่างการทำมากกว่า เพราะมันต้องใช้ระยะเวลาที่นานหน่อย ถึงจะเห็นผล แล้วต้องนานแค่ไหนถึงจะเห็นผล คงต้องกว่า ถ้าให้อ้างอิงขั้นต่ำ คือ 1 ปี ก็จะเริ่มเห็นผลชัดเจน
DCA หรือ Dollar-Cost Averaging เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่นักลงทุนทำการลงทุนจำนวนเงินเท่ากันในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่กำหนด ตัวอย่างเช่น การซื้อหุ้นทุกเดือนเดือนละ 1,000 บาท ไม่ว่าราคาหุ้นจะขึ้นหรือลงก็ตาม
ตัวอย่าง
สมมุติว่า:
หนูมีกระปุกออมสินและเก็บเงินทุกอาทิตย์
ทุกอาทิตย์หนูจะหยอดเงิน 10 บาทลงกระปุก
สัปดาห์แรก: หนูหยอดเงิน 10 บาท
สัปดาห์ที่สอง: หนูหยอดเงินอีก 10 บาท
สัปดาห์ที่สาม: หนูหยอดเงินอีก 10 บาท
สัปดาห์ที่สี่: หนูหยอดเงินอีก 10 บาท
สรุป
ในหนึ่งเดือน หนูจะมีเงินในกระปุก 40 บาท โดยหนูจะหยอดเงินจำนวนเท่ากันทุกสัปดาห์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
DCA ก็คล้ายกัน แต่เป็นการซื้อสินทรัพย์ เช่น หุ้น ทุกเดือนด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน ไม่ว่าราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง ดังนั้นแม้ว่าราคาหุ้นจะแพงหรือต่ำ หนูก็ยังคงซื้อหุ้นในจำนวนเงินที่เท่ากันทุกครั้ง ทำให้ลดความเสี่ยงจากการพยายามทายราคาหุ้นที่จะขึ้นหรือลง
แล้วต่อมา
การทบต้น
การทบต้นเกิดขึ้นเมื่อกำไรที่ได้รับจากการลงทุนถูกนำไปลงทุนซ้ำ ทำให้เงินทุนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากกำไรที่ได้รับ ซึ่งส่งผลให้การเติบโตของเงินทุนเป็นไปอย่างรวดเร็วเมื่อเวลาผ่านไป
ตัวอย่างง่าย
สมมุติว่า:
หนูมีเงิน 10 บาท และนำเงินนี้ไปลงทุนในกระปุกที่มีดอกเบี้ย 10% ต่อเดือน
เมื่อครบหนึ่งเดือน หนูจะได้รับดอกเบี้ย 1 บาท ทำให้หนูมีเงินทั้งหมด 11 บาท
หนูนำเงินทั้งหมด 11 บาทไปลงทุนในเดือนถัดไป
เมื่อครบเดือนที่สอง หนูจะได้รับดอกเบี้ย 1.1 บาท ทำให้หนูมีเงินทั้งหมด 12.1 บาท
การทบต้นในกรณี DCA
สมมุติว่าหนูลงทุนซื้อหุ้นเดือนละ 100 บาท
ในเดือนแรก หุ้นของหนูเติบโตและให้กำไร 10% ทำให้หนูมีเงินเพิ่มเป็น 110 บาท
เดือนถัดไป หนูนำเงิน 110 บาทนั้นมาลงทุนเพิ่มอีก 100 บาท รวมเป็น 210 บาท
เมื่อครบเดือนที่สอง หุ้นของหนูเติบโตอีก 10% ทำให้หนูมีเงินเพิ่มเป็น 231 บาท
สรุป
การทบต้นคือการนำกำไรที่ได้รับไปลงทุนซ้ำ ทำให้กำไรที่ได้รับก็สามารถเติบโตได้เรื่อยๆ ส่งผลให้เงินทุนเติบโตมากขึ้นในระยะยาว และเมื่อใช้กลยุทธ์ DCA ซึ่งมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยจำนวนเงินเท่ากัน การทบต้นก็จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้มากขึ้นอีก
หมายเหตุ
หุ้นหรือสิทนทรัพย์ใด ๆ ต้องมีมูลค่าที่ไม่เป็น 0 ในระยะยาว dca ถึงจะเห็นประสิทธิภาพที่ชัดเจน
Ref: atomic habits ,James Clear 2018